MBTI: มาดูกันว่าคุณรู้จักตัวคุณเองดีขนาดไหน?

มารู้จักตัวเองให้มากขึ้นผ่าน แบบทดสอบ MBTI (Myers Briggs Type Indicator) กันดีกว่า

แนวคิดนี้เริ่มมาจาก คาร์ล กุสตาฟ จุง ซึ่งมีความเชื่อว่าพฤติกรรมทางด้านบุคลิกภาพของมนุษย์เราเกิดจากสิ่งที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิดมากกว่าที่จะเกิดจากสภาพแวดล้อมภายนอก ซึ่งได้มีระบุไว้ในงานเขียนของเขา Psychological Types, 1920 ซึ่งต่อมาแฟนพันธ์แท้ของจุง หรือแม่ลูก Myers และ Briggs ก็ได้นำมาศึกษาต่อ และทำให้เราได้เห็นลักษณะเด่นของพฤติกรรมที่ถูกแบ่งออกมาได้ทั้งหมด 4 คู่ ในแต่ละคู่จะถูกแบ่งเป็น 2 หัวข้อที่อธิบายถึงการเบี่ยงเบนของพฤติกรรมของคนเราดังภาพ

สำหรับอักษรคู่แรกด้านการรับพลังงาน E/I

ก่อนที่จะไปฟังความหมายของแต่ละตัวอักษรว่าคืออะไรคุณลองตอบคำถามตัวเองดูว่าคุณเป็นคนที่

1. เมื่อคุณรู้ตัวว่าต้องไปร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดกับเพื่อนที่รู้จักกันไม่นานคุณคิดว่า

A. เรื่องงานสังสรรค์ถ้าไม่ติดอะไรก็ต้องไปด้วยอยู่แล้วคนคุ้นเคยกัน เชิญมาก็ต้องไปแน่นอน

B. ไม่อยากไปเลย ไม่ได้รู้จักขนาดนั้น และก็เกรงใจคนชวนด้วยไปก็ได้

2. เมื่ออยู่ในกลุ่มของเพื่อน คุณชอบที่จะ

A. เป็นจุดสนใจ และเป็นจุดเด่นภายในกลุ่ม

B. เป็นคนๆหนึ่งที่คอยรับฟัง และสังเกตความเป็นไปของเพื่อนรอบข้าง

3. เมื่อคุณต้องอยู่กับกลุ่มคนเป็นจำนวนมากคุณรู้สึกว่า

A. ไม่ได้มีปัญหาอะไร การที่มีเสียงจอแจบ้างทำให้บรรยากาศดูครึกครื้น

B. เอะอะ โวยวาย เสียงดัง อยากจะให้อยู่ในความสงบเงียบๆมากกว่า

ถ้าข้อ A มากกว่า B แสดงว่าคุณคือ Extravert

ถ้าข้อ B มากกว่า A แสดงว่าคุณคือ Introvert

E ย่อมาจากคำว่า Extrovert คือ บุคคลที่ได้รับพลังงานจากภายนอก

กล่าวคือเป็นบุคคลที่สนใจโลกภายนอก เช่นผู้คน สิ่งแวดล้อม ได้รับแรงกระตุ้นหรือพลังงานจากการมีปฏิสัมพันธ์

I ย่อมาจากคำว่า Introvert คือ บุคคลที่ได้รับพลังงานจากภายใน

กล่าวคือเป็นบุคคลที่ชอบอยู่กับตนเอง การสะท้อนหรือครุ่นคิดในสิ่งที่ผ่านมาจะทำให้เกิดพลังงานมากขึ้น

สำหรับอักษรคู่ที่สอง ด้านการรับรู้ข้อมูล

ก่อนที่จะไปฟังความหมายของแต่ละตัวอักษรว่าคืออะไรคุณลองตอบคำถามตัวเองดูว่าคุณเป็นคนที่

1. คุณเชื่อถือคนที่

A. สามารถทำในจริงในสิ่งที่พูดได้

B. มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าฉีกตัวเองออกจากกรอบ

2. คุณให้ความสำคัญอะไรมากกว่ากันระหว่าง

A. ปัจจุบัน

B. อนาคต

3. เมื่อคุยการทำโปรเจคต่างๆคุณมักจะ

A. คุยทั้งทีต้องลงรายละเอียดให้ครบว่าจะทำอะไรบ้าง

B. คุยแค่รวมๆ เป็นแค่ภาพรวมก็พอ แล้วให้แต่ละคนไปทำกันเอง

ถ้าข้อ A มากกว่า B แสดงว่าคุณคือ Sensing

ถ้าข้อ B มากกว่า A แสดงว่าคุณคือ iNtuitive

S ย่อมาจากคำว่า Sensing คือ การรับรู้ข้อมูลจากประสาทสัมผัส

กล่าวคือเป็นบุคคลที่ให้ความสำคัญกับข้อเท็จจริง ประสบการณ์ หรือสิ่งที่สามารถจับต้องได้ วัดผลได้

N ย่อมาจากคำว่า Intuitive คือ การรับรู้ข้อมูลจากสัญชาตญาณ

กล่าวคือเป็นบุคคลที่ให้ความสำคัญกับภาพกว้าง การเชื่อมโยงและการให้ความหมายกับสิ่งใหม่ๆรอบตัว

สำหรับอักษรคู่ที่สาม เป็นการวัดว่าโดยปกติแล้วคุณเลือกที่จะตัดสินใจด้วยอะไร

ก่อนที่จะไปฟังความหมายของแต่ละตัวอักษรว่าคืออะไรคุณลองตอบคำถามตัวเองดูว่าคุณเป็นคนที่

1. เมื่อต้องตัดสินใจอะไรสักอย่างคุณให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากันระหว่าง

A. ความถูกต้องยุติธรรม

B. ความสัมพันธ์

2. คนอื่นๆบอกว่าคุณเป็นคนที่

A. ใจแข็ง

B. ใจอ่อน

3. เมื่ออยู่ในภาวะที่คนทะเลาะกันคุณเลือกที่จะ

A. คุยกันตรงๆเลยว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วจะเอายังไง

B. ประนีประนอม หาความปรองดอง

ถ้าข้อ A มากกว่า B แสดงว่าคุณคือ Thinking

ถ้าข้อ B มากกว่า A แสดงว่าคุณคือ Feeling

T ย่อมาจากคำว่า Thinking คือ การตัดสินข้อมูลจากเหตุและผล

กล่าวคือเป็นบุคคลที่ให้ความสำคัญกับเหตุและผล หลักการ การวิเคราะห์ที่น่าเชื่อถือ สิ่งที่ควรเป็นไป

F ย่อมาจากคำว่า Feeling คือ การตัดสินข้อมูลจากคุณค่าด้านความเป็นบุคคล

กล่าวคือเป็นบุคคลที่ให้ความสำคัญเรื่องของจิตใจ ความสัมพันธ์ ความรู้สึก และคุณค่าของความเป็นคนของแต่ละคน

สำหรับอักษรคู่ที่สี่ เป็นการวัดว่าโดยปกติคุณมีปฎิกิริยากับโลกภายนอกอย่างไร

ก่อนที่จะไปฟังความหมายของแต่ละตัวอักษรว่าคืออะไรคุณลองตอบคำถามตัวเองดูว่าคุณเป็นคนที่

1. คุณชอบที่จะ

A. วางแผนก่อนที่จะทำอะไร

B. ลองทำไปเลย ณ ตอนนั้นไม่ต้องคิดมาก

2. พลังในการทำงานคุณจะมากช่วงไหนของการทำงาน

A. ช่วงแรก

B. ช่วงใกล้จบ

3. คนอื่นบอกว่าคุณเป็นคนที่

A. เจ้าวางแผน เข้มงวด

B. สบายๆ

ถ้าข้อ A. มากกว่า B. แสดงว่าคุณคือ Judging

ถ้าข้อ B. มากกว่า A. แสดงว่าคุณคือ Perceiving

J ย่อมาจากคำว่า Judging คือ กลุ่มบุคคลที่ชอบตัดสินใจ

กล่าวคือเป็นบุคคลที่ใช้ชีวิตโดยการวางแผน ตัดสินใจ และทำตามแผนที่ได้วางไว้

P ย่อมาจากคำว่า Perceiving คือ กลุ่มบุคคลที่ชอบความยืดหยุ่น สบายๆ

กล่าวคือเป็นบุคคลที่ใช้ชีวิตแบบสบายๆ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถรับการเปลี่ยนแปลงได้ดี

อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงคำถามบางส่วนที่หยิบยกมาเป็นตัวอย่างเฉยๆ แต่ถ้าจะให้แน่ใจว่าคุณเป็นคนไทป์ไหน ให้เข้าไปทำแบบทดสอบ MBTI ในลิงค์ที่ณัฏฐ์เคยแชร์ไว้ในบทความก่อนหน้านี้ดูนะคะ และเลือกคำตอบที่ถูกต้องและตรงไปตรงมากับคุณมากที่สุด เพื่อที่จะได้ผลทดสอบออกมาตรงกับตัวคุณมากที่สุดค่ะ

หากใครมีพื้นฐานภาษาอังกฤษ อยากให้ลองเข้าไปทำแบบทดสอบ MBTI version ภาษาอังกฤษ http://www.16personalities.com/ ควบคู่ไปด้วย จะได้นำมาเปรียบเทียบว่าตรงกันกับ MBTI version ภาษาไทยมั้ย

Credit photos: Strategicpath

Leave a comment